ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แตงโม

ประโยชน์ของแตงโม

ทำให้สุขภาพแข็งแรง

แตงโมมีสารที่เรียกว่า lycopene ที่มีแอนตี้ออกซิเดนท์ และช่วยในการบำรุงหัวใจ รวมถึงมะเร็ง สารนี้มีอยู่มากในมะเขือเทศเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกันแล้ว แตงโมมีมากกว่าถึง 40 เปอร์เซ็นต์

วิตามินซี

แตงโมเสี้ยวใหญ่ๆ จะเต็มไปด้วยวิตามินซีที่จำเป็นต่อร่างกายของเรา

ป้องกันการติดเชื้อ

การดื่มน้ำแตงโมช่วยเพิ่มเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายใช้ในการสร้างวิตามินเอ และการมีวิตามินเอมากๆ ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้


แผลหายเร็ว

แตงโมเป็นผลไม้ที่มี citrulline อยู่มาก สารตัวนี้จะช่วยในการรักษาแผลได้เร็ว อย่าดื่มแต่น้ำแตงโม ให้กินเนื้อมันเข้าไปด้วย โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นสีขาวอยู่ลึกลงไป แม้รสชาติจะไม่หวาน แต่มีประโยชน์

คลายเครียด

แตงโมเต็มไปด้วยโพแทสเซียม ที่จะช่วยควบคุมอัตราความดันโลหิต เรียกว่ากินแล้วจะอารมณ์ดี ยิ่งกินแบบเย็นๆ ยิ่งสบายใจ

ลดความอ้วน

ในแตงโมมีแคลอรี่แค่ 96 แคลอรี่เท่านั้น และการกินแตงโมที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำ ทำให้เราอิ่มได้เร็ว และไม่ต้องกินอาหารอื่นอีก

แตงโมแช่เย็นให้ความสดชื่นแก่ผู้รับประทานแต่อาจมีคุณค่าทางโภชนาการลดลงเมื่อเทียบกับแตงโมเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง :-

คณะนักวิจัยที่ห้องวิจัยปฏิบัติการทางการเกษตรในเมืองเลน รัฐโอคลาโฮมา ของกระทรวงเกษตรสหรัฐเผยในวารสารการเกษตรและเคมีอาหารว่า แตงโมเก็บที่อุณหภูมิห้องมีสารอาหารมากกว่าแตงโมแช่เย็นหรือแตงโมที่เพิ่งเก็บจากต้น พวกเขาศึกษาจากแตงโมที่เก็บไว้เป็นเวลา 14 วัน ณ อุณหภูมิที่แตกต่างกัน ได้แก่ 21 องศาเซลเซียส 13 องศาเซลเซียส และ 5 องศาเซลเซียส พบว่าแตงโมที่อุณหภูมิ 21 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิห้องในอาคารติดเครื่องปรับอากาศมีสารอาหารมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีไลโคปีนและเบต้าแคโรทีนมากกว่าแตงโมที่เพิ่งเก็บจากต้นประมาณร้อยละ 40 และร้อยละ 50-139 ตามลำดับ

ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้ผักผลไม้มีสีแดง คาดว่าช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งได้บางชนิด ส่วนเบต้าแคโรทีนเป็นสารอาหารที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ งานวิจัยนี้ชี้ว่า แตงโมยังผลิตสารอาหารต่อเนื่องแม้ถูกเก็บมาจากต้นแล้ว กระบวนการนี้จะลดลงหากนำแตงโมไปเก็บในอุณหภูมิเย็น ปกติแล้วแตงโมจะมีอายุในการวางจำหน่ายประมาณ 14-21 วัน ณ อุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียสหลังการเก็บเกี่ยว

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมากสีดา

สรรพคุณและประโยชน์ของฝรั่ง 33 ข้อ !  ฝรั่ง ชื่อสามัญ Guava ฝรั่ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Psidium guajava Linn. จัดเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลางและในหมู่เกาะอินดีสต์ตะวันตก และคาดว่ามีการนำเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยสายพันธุ์ในบ้านเราที่นิยมนำมารับประทานสดๆ ก็ได้แก่ฝรั่งกิมจู ฝรั่งเวียดนาม ฝรั่งแป้นสีทอง ฝรั่งไร้เมล็ด ฝรั่งกลมสาลี่ เป็นต้น ฝรั่งเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด โดยจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด ในฝรั่งน้ำหนัก 165 กรัม จะให้วิตามินสูงถึง 377 มิลลิกรัม ! มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่า ! คำแนะนำ : การรับประทานฝรั่งไม่ควรจะปอกเปลือกทั้งนี้เพื่อคงคุณค่าของสารอาหาร และไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป ถ้าเป็นไปได้ไม่ควนรับประทานร่วมกับพริกเกลือน้ำตาลหรืออื่นๆ เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วยังทำให้เราอ้วนขึ้นอีกด้วย คุณค่าทางโภชนาการของฝรั่งต่อ 165 กรัม • พลังงาน 112 กิโลแคลอรีสรรพคุณของฝรั่ง • เส้นใยอาหาร 8.9 กรัม 36% • โปรตีน 4.2 กรัม 8% • ไขมัน 1.6 กรัม 2% • คาร์โบไฮเดรต 23.6 กรัม 8% • วิต...

รายชื่อผลไม้ต้านมะเร็ง

รายชื่อผลไม้ต่อไปนี้ หากเพื่อนๆทานทุกวัน สามารถต้านมะเร็งได้นะครับ ผลไม้ต้านมะเร็ง องุ่น, บลูเบอรี่, เก๋ากี้, มังคุด, ทับทิม, อโวคาโด, ส้ม/มะนาว, กล้วย, แก้วมังกร, ทุเรียนเทศ, แอปเปิ้ล, ลูกยอ,เสาวรส, สตอเบอรี่ และกีวี ผลไม้ชนิดไหน หากเพื่อนๆไม่เคยลองทาน สามารถลองได้นะครับ เพราะนอกจากมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังช่วยลดโรคได้อีกด้วยนะครับ

ประโยชน์ดีดีจากกีวี

กีวี