“โอ่วไน” เป็นภาษาจีนที่แปลว่า เผือก เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงชอบทานกันไม่ว่าจะเอามาทำเป็นของหวานอย่างเช่น ข้าวเหนียวปิ้งใส่เผือก บวชเผือก เผือกทอดบัวลอยเผือก แต่การทานเผือกนั้นต้องทำให้สุกเพราะในเผือกดิบจะมีพิษ สังเกตุได้จากการที่เราปลอกเปลือกเผือก ก็จะรู้สึกคัน ถ้าใครแพ้เผือกก็จะมีอาการคันช่องปากหรือลิ้นชา เผือกมีสรรพคุณมีมากมายทีเดียวเรามาดูกัน
เผือก
- เผือกมีฤทธิ์เป็นกลาง เป็นอาหารที่บำรุงสุขภาพและให้พลังงานไปพร้อม ๆ กัน มีรสหวานอมเผ็ดนิดหน่อยเหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาด้านการย่อยอาหาร เผือกมีแคลอรีสูงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ส่วนที่ใช้ในการรับประทานคือส่วน หัว ของเผือกที่อยู่ใต้ดิน เผือกจะมีสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีน โพแทสเซียม วิตามินบี 1 วิตามินซี และที่สำคัญมีธาตุเหล็กสูงและยังมีฟลูอออไรด์สูง ช่วยทำให้ฟันไม่ผุ กระดูกแข็งแรง เผือกยังช่วยบำรุงไต บำรุงลำใส้และแก้อาการท้องเสียอีกด้วย
สรรพคุณ เผือก
ถ้าคุณอยากทานเผือกเพื่อบำรุงร่างกาย ให้แข็งแรง
วิธีใช้ ต้มเผือก 100 กรัม กับข้าว 100 กรัม ต้มให้เป็นโจ๊ก และทานได้เลย ในผู้ป่วยที่กำลังเป็นไข้ การทานโจ๊กเผือก ก็จะทำให้ฟื้นไข้เร็วขึ้น
สำหรับผู้ที่เป็นโรคเรื้อนกวาง เผือกก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
วิธีใช้ เอาต้นกระเทียมประมาณ 100 กรัม โขลกกับเผือกสดอีก 100 กรัม โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันแล้วทาบริเวณที่เป็นเรื้อนกวาง ก็จะทำให้อาการดีขึ้น
เผือกยังช่วยรักษาอาการปวดเมื่อย เส้นเอ็น กระดูก และทาแก้แมลงกัด ต่อย
วิธีใช้ โขลกเผือกสดให้ละเอียดและเทน้ำมันงาใส่ลงไป คลุกให้เข้ากัน ใช้ทาบริเวณ ที่ปวดเมื่อย และแมลงสัตว์กัดต่อย
- เผือกมีประโยชน์มากมายอย่างที่เราบอกนี้แหละ แต่กันรับประทานเผือกมากเกินไปก็จะทำให้ม้ามทำงานไม่ค่อยดี และยังทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่ค่อยดีอีกต่างหาก การรับประทานเผือกจึงต้องทานในปริมาณที่เหมาะสม จึงจะดีต่อร่างกายนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจากhttp://healthdeena.blogspot.com/