ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ทุเรียนน้ำ


" แรงกว่า 10,000 เท่า ฆ่าเซลล์มะเร็งได้มากกว่าการคีโม Chemo เสียอีก"

ผลไม้รสเปรี้ยวหรือผลไม้จากต้นไม้ Graviola(ทุเรียนน้ำ) หรือ (ทุเรียนเทศ)
เป็นต้นไม้มหัศจรรย์จากธรรมชาติ
ที่เป็นฆาตกรเซลล์โรคมะเร็งได้10,000 เท่าดีกว่าคีโม Chemo

ทำไมพวกเราจึงไม่รู้ถึงเรื่องนี้ ?
เพราะบริษัทยาขนาดใหญ่ต้องการที่จะทำเงิน
หลังจากการต้องทุ่มเทเวลาอยู่นานหลายปีกับการวิจัย
ที่พยายามที่สังเคราะห์ผลผลิตออกมาเป็นยา
เพื่อนำมาขายโดยเฉพาะ

ดังนั้น ตอนนี้คุณรู้แล้วว่า
คุณสามารถช่วยเหลือเพื่อนที่เจ็บป่วย
โดยการบอกให้พวกเขารู้ว่า
หรือเพียงแค่ดื่มน้ำผลไม้รสเปรี้ยวเป็นประจำ
เพื่อเป็นการป้องกัน
รสชาติก็ไม่เลวมากนักหลังจากเคยชิน
เพราะเป็นผลไม้ตามธรรมชาติโดยสมบูรณ์
และแน่นอนไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย
หากคุณมีพื้นที่ดินเหลือว่างอยู่ในบ้าน
ให้ลองปลูกสักหนึ่งต้น
ส่วนอื่น ๆ ของต้นไม้นี้ก็มีประโยชน์เช่นกัน

ในครั้งต่อไปถ้าต้องการดื่มน้ำผลไม้ให้ดื่มน้ำผลไม้นี้

ความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับต้นไม้นี้
เป็นเพราะผลในการต่อต้านเซลล์มะเร็งเป็นอย่างมาก
มันจะมีประสิทธิภาพที่นับจำนวนครั้งได้
ตามเงื่อนไขทางการแพทย์
มันมีผลต่อต้านเซลล์เนื้องอก
แต่ที่น่าสนใจมากที่สุด
ต้นไม้นี้ได้พิสูจน์แล้วว่า
รักษาโรคมะเร็งได้ทุกประเภท

นอกเหนือจากการรักษาโรคมะเร็ง
Graviola มีสเปกตรัม(ขอบเขตการรักษา)กว้างมากเหมือนยาปฏิชีวนะ
สำหรับรักษาการติดเชื้อ ทั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
มีผลดีกับการกำจัดพยาธิภายในและหนอน
ช่วยลดความดันโลหิตสูง
และถูกนำมาใช้สำหรับรักษาความผิดปกติจาก
อาการเครียด ซึมเศร้า และโรคประสาท

การวิจัยแสดงให้เห็นว่า
สารสกัดที่ได้จากจากต้นไม้มหัศจรรย์นี้
ในขณะนี้และที่อาจเป็นไปได้คือ

* โจมตีเซลล์มะเร็งได้อย่างปลอดภัย
และมีประสิทธิภาพในการรักษา
เป็นผลผลิตตามธรรมชาติทั้งหมด
ไม่ก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้อย่างรุนแรง
สูญเสียน้ำหนักและเส้นผมหลุดร่วง

* ป้องกันระบบภูมิคุ้มกันและหลีกเลี่ยงการติดเชื้อร้ายแรง

* รู้สึกถึงความแข็งแรงและมีสุขภาพดีมากขึ้น
ตลอดช่วงเวลาของการรักษา

* เพิ่มพลังงานชีวิตและปรับปรุง
สภาพร่างกายภายนอกของคุณ

แหล่งที่มาของข้อมูลนี้ไม่เพียงแต่น่าประหลาดใจ
เพราะข้อมูลมาจากหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตยา
ในสหรัฐอเมริกาที่ใหญ่ที่สุด
จากผลการทดสอบผลไม้นี้
ในห้องทดสอบปฏิบัติการมากกว่า 20 แห่ง
ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1970(2513)
ผลการทดสอบเหล่านั้นเผยผลลัพท์
ที่ทำให้นักทดลองต่างต้องตกตะลึง
และมึนงงไปตาม ๆ กันเลย
สารสกัดจากต้นไม้แสดงให้เห็นว่า

* มีประสิทธิภาพตามที่ต้องการ
ฆ่าเซลล์โรคมะเร็งได้ถึง 12 ชนิด
ได้แก่ ลำไส้ใหญ่ เต้านม ต่อมลูกหมาก
มะเร็งปอดและมะเร็งตับอ่อน เป็นต้น

* สารประกอบต้นไม้พิสูจน์ให้เห็นว่า
มีฤทธิ์แรงมากกว่า 10,000 เท่า
ในการลดอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
ทำให้เซลล์มะเร็งโตช้าขึ้น
เหนือกว่ายาเคมีบำบัด Adriamycin
ยารักษาโรคมะเร็งที่ใช้กันอยู่ทั่วไป

* มีอะไรเพิ่มเติมที่แตกต่างจากยาเคมีบำบัด
สารสกัดที่คัดเลือกแล้วจาก Graviola
มีแต่เพียงเซลล์มะเร็งเท่านั้นที่ถูกฆ่า
โดยไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ทั่วไปของร่างกาย

คุณสมบัติในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง
ที่น่าประหลาดใจนี้จาก Graviola
ทีผ่านการทำการวิจัยอย่างกว้างขวาง

แต่ทำไมพวกเราถึงไม่เคยได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
ถ้า Graviola มีประโยชน์จริงตามนี้ ?

เพราะหนึ่งในบริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่
ที่มียอดขายต่อปีมากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ
ได้เริ่มต้นค้นหายาสำหรับการรักษาโรคมะเร็ง
โดยการวิจัยที่มีเป้าหมายรวมศูนย์อยู่ที่ Graviola
มีตำนานบอกเล่ามานานแล้วว่าใช้ในการรักษาโรค
มาจากชาวบ้านป่าดงดิบอเมซอน

ส่วนต่าง ๆ ของ Graviola
รวมทั้งเปลือก ใบ ราก ผลไม้ และเมล็ด
มีการใช้งานมานานหลายศตวรรษแล้ว
โดยหมอยา และคนพื้นเมืองอินเดียนในละตินอเมริกา
ใช้ในการรักษาโรคหัวใจ โรคหืด โรคไข้ข้ออักเสบ
โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ

แต่สิ่งที่พบเห็นและที่เป็นอยู่ในตอนนี้คือ
มีเอกสารและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
รวมทั้งงานวิจัยเกี่ยวกับ Graviola น้อยมาก
เพราะบริษัทยาได้ทุ่มเทเงินและทรัพยากร
ลงไปในการทดสอบคุณสมบัติการป้องกันรักษามะเร็ง
จาก Graviola เป็นจำนวนมหาศาล
แล้วพบกับเรื่องที่น่าตื่นตะลึงและน่าตกใจว่า
ผลการทดสอบคือ Graviola ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า
จะเป็นระเบิดไดนาโมในการฆ่าโรคมะเร็ง

บริษัทยาต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหนักอีกอย่างหนึ่ง
เกี่ยวกับ Graviola เพราะมันเป็นผลผลิตจากธรรมชาติอย่างแท้จริง
และภายใต้กฎหมายของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
ทำให้ไม่สามารถจดทะเบียนสิทธิบัตรหรือทรัพย์สินทางปัญญา
จึงไม่มีทางที่จะทำกำไรอย่างมหาศาลได้จาก Graviola

เรื่องที่มีการเปิดเผยออกมาก็คือ
ผลการศึกษาพบว่า Graviola
"ใบและลำต้นพบที่มีประสิทธิภาพในการโจมตีและทำลายเซลล์มะเร็ง"
แต่กลายเป็นเรื่องปกปิดภายใน
รายงานที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่เฉพาะภายในหน่วยงาน
และไม่เคยปล่อยให้ถึงมือประชาชน
(ให้ประชาชนรับทราบเรื่องนี้เลย)

ที่ค้นพบคือ การเลือกฆ่าเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่
ที่มากกว่า10,000 เท่าของความแรง
มากกว่ายาเคมีบำบัดที่ใช้กันทั่วไปที่ชื่อว่า Adriamycin

ส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดจากรายงานของ
มหาวิทยาลัยคาทอลิกของเกาหลีใต้
ได้รายงานว่า Graviola
แสดงให้เห็นถึงการกำหนดเป้าหมาย
กำจัดเฉพาะเซลล์มะเร็ง
แยกออกจากเซลล์ทั่วไปของร่างกาย
เซลล์ปกติจะไม่ถูกแตะต้อง
ซึ่งแตกต่างจากยาเคมีบำบัดทั่วไป
ที่ไม่แยกแยะเป้าหมายเซลล์แต่อย่างใด
แต่มีผลอย่างแรงต่อเซลล์อื่นๆ ด้วยเช่นกันทั้งหมด
(เช่น กระเพาะอาหาร และเซลล์เส้นผลผม)
ทำให้เกิดการทำลายล้างอย่างมาก
มักจะมีผลข้างเคียงจาก อาการคลื่นไส้และผมร่วงในผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ผลการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Purdue เมื่อเร็ว ๆ นี้
พบว่าใบจาก Graviola
ฆ่าเซลล์มะเร็งภายในร่างกายมนุษย์ได้ถึงหกประเภท
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีประสิทธิภาพกับ
ต่อมลูกหมาก ตับอ่อน และมะเร็งปอด

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมากสีดา

สรรพคุณและประโยชน์ของฝรั่ง 33 ข้อ !  ฝรั่ง ชื่อสามัญ Guava ฝรั่ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Psidium guajava Linn. จัดเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลางและในหมู่เกาะอินดีสต์ตะวันตก และคาดว่ามีการนำเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยสายพันธุ์ในบ้านเราที่นิยมนำมารับประทานสดๆ ก็ได้แก่ฝรั่งกิมจู ฝรั่งเวียดนาม ฝรั่งแป้นสีทอง ฝรั่งไร้เมล็ด ฝรั่งกลมสาลี่ เป็นต้น ฝรั่งเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด โดยจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด ในฝรั่งน้ำหนัก 165 กรัม จะให้วิตามินสูงถึง 377 มิลลิกรัม ! มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่า ! คำแนะนำ : การรับประทานฝรั่งไม่ควรจะปอกเปลือกทั้งนี้เพื่อคงคุณค่าของสารอาหาร และไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป ถ้าเป็นไปได้ไม่ควนรับประทานร่วมกับพริกเกลือน้ำตาลหรืออื่นๆ เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วยังทำให้เราอ้วนขึ้นอีกด้วย คุณค่าทางโภชนาการของฝรั่งต่อ 165 กรัม • พลังงาน 112 กิโลแคลอรีสรรพคุณของฝรั่ง • เส้นใยอาหาร 8.9 กรัม 36% • โปรตีน 4.2 กรัม 8% • ไขมัน 1.6 กรัม 2% • คาร์โบไฮเดรต 23.6 กรัม 8% • วิตามิน

ประโยชน์ดีดีจากกีวี

กีวี

ประโยชน์ของเผือก

“โอ่วไน” เป็นภาษาจีนที่แปลว่า เผือก เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงชอบทานกันไม่ว่าจะเอามาทำเป็นของหวานอย่างเช่น ข้าวเหนียวปิ้งใส่เผือก บวชเผือก เผือกทอดบัวลอยเผือก แต่การทานเผือกนั้นต้องทำให้สุกเพราะในเผือกดิบจะมีพิษ สังเกตุได้จากการที่เราปลอกเปลือกเผือก ก็จะรู้สึกคัน ถ้าใครแพ้เผือกก็จะมีอาการคันช่องปากหรือลิ้นชา เผือกมีสรรพคุณมีมากมายทีเดียวเรามาดูกัน เผือก - เผือกมีฤทธิ์เป็นกลาง เป็นอาหารที่บำรุงสุขภาพและให้พลังงานไปพร้อม ๆ กัน มีรสหวานอมเผ็ดนิดหน่อยเหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาด้านการย่อยอาหาร เผือกมีแคลอรีสูงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ส่วนที่ใช้ในการรับประทานคือส่วน หัว ของเผือกที่อยู่ใต้ดิน เผือกจะมีสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีน โพแทสเซียม วิตามินบี 1 วิตามินซี และที่สำคัญมีธาตุเหล็กสูงและยังมีฟลูอออไรด์สูง ช่วยทำให้ฟันไม่ผุ กระดูกแข็งแรง เผือกยังช่วยบำรุงไต บำรุงลำใส้และแก้อาการท้องเสียอีกด้วย สรรพคุณ เผือก ถ้าคุณอยากทานเผือกเพื่อบำรุงร่างกาย ให้แข็งแรง วิธีใช้ ต้มเผือก 100 กรัม กับข้าว 100 กรัม ต้มให้เป็นโจ๊ก และทานได้เลย ในผู้ป่วยที่กำลังเป็นไข้ การทานโจ๊กเผือก ก็จะทำ