ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

น้ำกระชาย


ดื่มน้ำกระชายเป็นประจำ...ดีอย่างไร? 
กระชายเหลือง มีประโยชน์มากกว่ากระชายดำ ราคาถูกกว่า แต่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่ากระชายดำมีประโยชน์มากกว่า

ประโยชน์โดยรวมของกระชายเหลือง
*บำรุงกระดูก(เพราะมีแคลเซียมสูง)
*บำรุงสมอง เพราะทำให้เลือดเลี้ยงสมองส่วนกลางดีขึ้น
*ปรับสมดุลของฮอร์โมน
*ปรับสมดุลของความดันโลหิต(ความดันโลหิตที่สูงจะลดลง *ความดันโลหิตที่ต่ำจะสูงขึ้น)
*แก้โรคไต ทำให้ไตทำงานดีขึ้น
*ป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ
*บำรุงมดลูก
*แก้ปัญหาผมหงอก ผมร่วง
*อาการกระเพราะปัสสาวะเกร็ง(กรณีนี้อาจใช้เม็ดบัวต้มกิน)
*ควบคุมไม่ให้ต่อมลูกหมากโต
*แก้ปัญหาใส้เลื่อน

สรรพคุณที่เด่นๆก็คือ ช่วยปรับสมดุลย์ฮอร์โมนให้ปกติ จึงเหมาะกับคนวัยทองอย่างยิ่งที่มีความผิดปกติเรื่องฮอร์โมน ...ถ้าลองดื่มครั้งแรก ๆ อาจรู้สึกรสชาติแปลกๆ ร้อนวูบ เหงื่อออกตามตัว แต่เมื่อดื่มครั้งสองครั้งร่างกายก็ปรับได้จะชินไปเองคะ.....

สูตรง่ายๆได้ประโยชน์เหมือนกัน เพื่อปรับสมดุล ใช้สมุนไพรฤทธิ์ร้อน กับสมุนไพรฤทธิ์เย็นรวมกัน เป็นดีแน่แท้ 

*สูตร ๑. สูตรนี้เน้น - บำรุงไต - บำรุงกำหนัด ( ทุกย่างสด และใช้ตำในครก เพื่อคุณภาพทุกอย่าง ยังคงอยู่ )
*กระชายสด 2 ขีด *โหรระพา 5-10 บาท *มะนาว * น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ 

*สูตร ๒. ปรับสมดุลในร่างกาย แก้คลื่นไส้อาเจียน - กระชาย 2 ขีด - มะนาว 1 ลูก - น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ -สับปะรด 3 ชิ้น - ใบบัวบก 1 กำ ( 5-10 บาท )

*สูตร ๓.น้ำกระชายต้ม
ส่วนผสม
เหง้ากระชาย 1 ถ้วย
น้ำสะอาด 2 ถ้วย - น้ำตาลทรายแดงตามต้องการ ( ไม่ต้องหวานมาก )

วิธีทำ
1. ล้างเหง้ากระชายด้วยน้ำเปล่าหลายครั้งให้สะอาด ...บุบให้แหลก ใส่น้ำลงในหม้อ ตั้งไฟให้เดือด เอากระชายใส่ลงไปต้มจนเดือดมีกลิ่นหอม หรี่ไฟลง เคียวต่อไปอีก 10 นาที สารที่มีคุณค่าในกระชายออกมา ...แล้วให้เติมน้ำเท่าเดิมอีก ยกลง

2. กรองด้วยผ้าขาวบางเอากากออกไป เติมน้ำตาลทรายแดงและต้มให้เดือดอีก 3 นาที แล้วยกลง จะดื่มแบบร้อนคล่องคอ ได้น้ำกระชายสีเหลืองอ่อน รสเผ็ดปร่าเล็กน้อย มีกลิ่นของกระชายและกลิ่นน้ำตาลทรายแดง หรือจะดื่มแบบเย็น กับน้ำแข็งก็สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ดีค่ะ

ที่มา ♥ หมอปรียาภา

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมากสีดา

สรรพคุณและประโยชน์ของฝรั่ง 33 ข้อ !  ฝรั่ง ชื่อสามัญ Guava ฝรั่ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Psidium guajava Linn. จัดเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลางและในหมู่เกาะอินดีสต์ตะวันตก และคาดว่ามีการนำเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยสายพันธุ์ในบ้านเราที่นิยมนำมารับประทานสดๆ ก็ได้แก่ฝรั่งกิมจู ฝรั่งเวียดนาม ฝรั่งแป้นสีทอง ฝรั่งไร้เมล็ด ฝรั่งกลมสาลี่ เป็นต้น ฝรั่งเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด โดยจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด ในฝรั่งน้ำหนัก 165 กรัม จะให้วิตามินสูงถึง 377 มิลลิกรัม ! มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่า ! คำแนะนำ : การรับประทานฝรั่งไม่ควรจะปอกเปลือกทั้งนี้เพื่อคงคุณค่าของสารอาหาร และไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป ถ้าเป็นไปได้ไม่ควนรับประทานร่วมกับพริกเกลือน้ำตาลหรืออื่นๆ เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วยังทำให้เราอ้วนขึ้นอีกด้วย คุณค่าทางโภชนาการของฝรั่งต่อ 165 กรัม • พลังงาน 112 กิโลแคลอรีสรรพคุณของฝรั่ง • เส้นใยอาหาร 8.9 กรัม 36% • โปรตีน 4.2 กรัม 8% • ไขมัน 1.6 กรัม 2% • คาร์โบไฮเดรต 23.6 กรัม 8% • วิตามิน

ประโยชน์ดีดีจากกีวี

กีวี

ประโยชน์ของเผือก

“โอ่วไน” เป็นภาษาจีนที่แปลว่า เผือก เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงชอบทานกันไม่ว่าจะเอามาทำเป็นของหวานอย่างเช่น ข้าวเหนียวปิ้งใส่เผือก บวชเผือก เผือกทอดบัวลอยเผือก แต่การทานเผือกนั้นต้องทำให้สุกเพราะในเผือกดิบจะมีพิษ สังเกตุได้จากการที่เราปลอกเปลือกเผือก ก็จะรู้สึกคัน ถ้าใครแพ้เผือกก็จะมีอาการคันช่องปากหรือลิ้นชา เผือกมีสรรพคุณมีมากมายทีเดียวเรามาดูกัน เผือก - เผือกมีฤทธิ์เป็นกลาง เป็นอาหารที่บำรุงสุขภาพและให้พลังงานไปพร้อม ๆ กัน มีรสหวานอมเผ็ดนิดหน่อยเหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาด้านการย่อยอาหาร เผือกมีแคลอรีสูงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ส่วนที่ใช้ในการรับประทานคือส่วน หัว ของเผือกที่อยู่ใต้ดิน เผือกจะมีสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีน โพแทสเซียม วิตามินบี 1 วิตามินซี และที่สำคัญมีธาตุเหล็กสูงและยังมีฟลูอออไรด์สูง ช่วยทำให้ฟันไม่ผุ กระดูกแข็งแรง เผือกยังช่วยบำรุงไต บำรุงลำใส้และแก้อาการท้องเสียอีกด้วย สรรพคุณ เผือก ถ้าคุณอยากทานเผือกเพื่อบำรุงร่างกาย ให้แข็งแรง วิธีใช้ ต้มเผือก 100 กรัม กับข้าว 100 กรัม ต้มให้เป็นโจ๊ก และทานได้เลย ในผู้ป่วยที่กำลังเป็นไข้ การทานโจ๊กเผือก ก็จะทำ