ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ลูกเดือยต้านมะเร็ง





    ลูกเดือย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Coix lacryma-jobi วงศ์ Poaceae เป็นธัญพืชตระกูลเดียวกับข้าว เป็นพืชพื้นเมืองแท้ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมล็ดมีรูปร่างกลม ๆ รี ๆ สีขาว รสชาติออกมันเล็กน้อย มีคุณค่าทางอาหารสูง ให้สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมาก

ลูกเดือยตากแห้ง เมื่อปรุงอาหารแล้วจะมีรสหวานและมีฤทธิ์เย็นเล็กน้อย ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงม้ามและกระเพาะอาหาร ทำให้ฝีหนองหายเร็ว ลดไข้ได้ดี

ในหนังสือ สมุนไพร 91 ชนิด พิชิตโรค ชุด ตำรายาล้ำค่าของหมอโฮจุน ที่ยูเนสโกคัดเลือกให้เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก จากสำนักพิมพ์อินสปายร์ บันทึกไว้ว่า แพทย์พบว่า ลูกเดือยออกฤทธิ์ต้านมะเร็งได้ และยังแก้อักเสบ ลดคอเลสเตอรอล บรรเทาอาการเจ็บปวดอื่น ๆ เช่น ปวดท้องคลอดได้ ลดอาการบวม แก้โรคเหน็บชา

วิธีบรรเทา โรคตับอักเสบเรื้อรัง โรคไตอักเสบรุนแรง ให้นำลูกเดือยมาบดเป็นผงหรือต้มกินวันละ 12-35 กรัม จะช่วยรักษาภาวะทุพโภชนาการได้ หากนำลูกเดือยบดเป็นผง 30-60 กรัม ไปต้มรวมกับข้าวต้ม 60 กรัม แล้วกินทั้งเช้าและเย็น จะช่วยรักษาอาการบวมน้ำในคนชรา อาการท้องร่วง ข้อต่ออักเสบ อาการมือและเท้าชักกระตุกได้ดี ที่สำคัญคือช่วยรักษาโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่สตรีมีครรภ์ควรระวัง

ข้อมูลจากเดลินิวส์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

หมากสีดา

สรรพคุณและประโยชน์ของฝรั่ง 33 ข้อ !  ฝรั่ง ชื่อสามัญ Guava ฝรั่ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Psidium guajava Linn. จัดเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลางและในหมู่เกาะอินดีสต์ตะวันตก และคาดว่ามีการนำเข้ามาในประเทศไทยในช่วงสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยสายพันธุ์ในบ้านเราที่นิยมนำมารับประทานสดๆ ก็ได้แก่ฝรั่งกิมจู ฝรั่งเวียดนาม ฝรั่งแป้นสีทอง ฝรั่งไร้เมล็ด ฝรั่งกลมสาลี่ เป็นต้น ฝรั่งเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด โดยจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกชนิด ในฝรั่งน้ำหนัก 165 กรัม จะให้วิตามินสูงถึง 377 มิลลิกรัม ! มีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 5 เท่า ! คำแนะนำ : การรับประทานฝรั่งไม่ควรจะปอกเปลือกทั้งนี้เพื่อคงคุณค่าของสารอาหาร และไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป ถ้าเป็นไปได้ไม่ควนรับประทานร่วมกับพริกเกลือน้ำตาลหรืออื่นๆ เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วยังทำให้เราอ้วนขึ้นอีกด้วย คุณค่าทางโภชนาการของฝรั่งต่อ 165 กรัม • พลังงาน 112 กิโลแคลอรีสรรพคุณของฝรั่ง • เส้นใยอาหาร 8.9 กรัม 36% • โปรตีน 4.2 กรัม 8% • ไขมัน 1.6 กรัม 2% • คาร์โบไฮเดรต 23.6 กรัม 8% • วิตามิน

ประโยชน์ดีดีจากกีวี

กีวี

ประโยชน์ของเผือก

“โอ่วไน” เป็นภาษาจีนที่แปลว่า เผือก เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงชอบทานกันไม่ว่าจะเอามาทำเป็นของหวานอย่างเช่น ข้าวเหนียวปิ้งใส่เผือก บวชเผือก เผือกทอดบัวลอยเผือก แต่การทานเผือกนั้นต้องทำให้สุกเพราะในเผือกดิบจะมีพิษ สังเกตุได้จากการที่เราปลอกเปลือกเผือก ก็จะรู้สึกคัน ถ้าใครแพ้เผือกก็จะมีอาการคันช่องปากหรือลิ้นชา เผือกมีสรรพคุณมีมากมายทีเดียวเรามาดูกัน เผือก - เผือกมีฤทธิ์เป็นกลาง เป็นอาหารที่บำรุงสุขภาพและให้พลังงานไปพร้อม ๆ กัน มีรสหวานอมเผ็ดนิดหน่อยเหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาด้านการย่อยอาหาร เผือกมีแคลอรีสูงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ส่วนที่ใช้ในการรับประทานคือส่วน หัว ของเผือกที่อยู่ใต้ดิน เผือกจะมีสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีน โพแทสเซียม วิตามินบี 1 วิตามินซี และที่สำคัญมีธาตุเหล็กสูงและยังมีฟลูอออไรด์สูง ช่วยทำให้ฟันไม่ผุ กระดูกแข็งแรง เผือกยังช่วยบำรุงไต บำรุงลำใส้และแก้อาการท้องเสียอีกด้วย สรรพคุณ เผือก ถ้าคุณอยากทานเผือกเพื่อบำรุงร่างกาย ให้แข็งแรง วิธีใช้ ต้มเผือก 100 กรัม กับข้าว 100 กรัม ต้มให้เป็นโจ๊ก และทานได้เลย ในผู้ป่วยที่กำลังเป็นไข้ การทานโจ๊กเผือก ก็จะทำ